- สารช่วยหล่อลื่น และลดความหนืด ทำให้เนื้อครีม หรือเนื้อเจลมีความลื่น น่าใช้
- ตัวทำละลาย (solvent) ช่วยเพิ่มความเสถียร (stability) ของเนื้อครีม เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง และผสมกับสารอื่นได้ง่าย
- กักเก็บความชุ่มชื้น (humectant) ลดการสูญเสียน้ำของผิว
มีคุณสมบัติเหมือน Butylene Glycol (สามารถใช้แทนกันได้ในทุกสูตร) แต่ Butylene Glycol จะมีเนื้อที่บางเบากว่า และมีผลการวิจัยว่ามีโอกาสระคายผิวได้น้อยกว่า Propylene Glycol
การใช้ Propylene Glycol ในปริมาณสูงเกิน 5% ของสูตร อาจทำให้รู้สึกร้อน เวลาทา
การใช้ : ผสมใน เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม : ผสมได้ในหลายขั้นตอน
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ของเหลวใส ลักษณะคล้ายน้ำมัน
การละลาย : สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา : สามารถเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ปิดฝาขาดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์มีอายุอย่างต่ำ 2 ปี
*****************************************************************
Glycerin (Vegetable) 99.5%
การใช้ : ผสมใน เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม : ผสมในน้ำ (water-phase)
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ของเหลวใสมีเนื้อเป็นเจลเหลว ความบริสุทธิ์สูงพิเศษ
การละลาย : สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา : สามารถเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ปิดฝาขาดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์มีอายุอย่างต่ำ 2 ปี
*****************************************************************
Lactic Acid (AHA) 88%
กรด Lactic หรือ AHA (Alpha Hydroxy Acid) ชนิด L(+) Lactic Acid ความเข้มข้น 88% (ความเข้มข้นสูงสุด) บริสุทธิ์พิเศษ (cosmetic grade - high purity) เป็นกรดธรรมชาติที่สกัดด้วยกระบวนการ fermentation หรือการบ่ม ของอาหารกลุ่มนม มีฤทธิ์สามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิว (peeling) โดยการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และมีสีโทนเดียวกัน (even-tone) มากขึ้น
กรดแลคติก สามารถใช้ได้ที่ความเข้มข้นไม่เกิน 10% และ pH ของผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.5 หากใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ ต้องอยู่ภายใต้ความควบคุมของแพทย์ผิวหนัง หลีกเลี่ยงแสงแดดทุกชนิดในช่วงที่ใช้ รวมถึงพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด (sun block / sun protection) เนื่องจากการใช้ AHA จะทำให้ผิวบางลง และผิวจะมีความไวต่อแสงสูงขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง AHA 2 ชนิด คือ Lactic Acid และ Glycolic Acid ในการทำงานผลัดเซลล์ผิว
- Glycolic Acid มีประสิทธิภาพสูงกว่า ในปริมาณที่เท่ากัน ในการผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า ทำให้สามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่า Lactic Acid
- เนื่องจาก Glycolic Acid สามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่า จึงอาจสร้างความระคายเคืองผิวได้มากกว่า Lactic Acid ในปริมาณที่เท่ากัน
- Lactic Acid ออกฤทธิ์ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ด้วย ในขณะที่ Glycolic Acid สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างเดียว
กรดแลคติก สามารถใช้เป็นสารช่วยปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ให้ลดต่ำลงได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มีความเข้มข้นที่ 88% ไม่ใช่ที่ 100% เวลาผสม ต้องคำนวณตามอัตราส่วน 100% กล่าวคือ 1.136 กรัม ของ Lactic Acid 88% = 1.00 กรัม ของ Lactic Acid 100%
ข้อกำหนด อ.ย. สำหรับ AHA :
สำหรับผู้บริโภค ใช้ได้ไม่เกิน 10% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.5
สำหรับแพทย์ ใช้ได้ไม่เกิน 30% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.0
ระดับ pH ที่เหมาะสม : สูตร AHA ควรจะมี pH ไม่เกิน 4.0 (ดีที่สุดที่ pH 2.5 , ดีที่สุดและผ่านข้อกำหนดของ อ.ย. ที่ pH 3.5) เพื่อให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ โดยหาก pH สูงกว่า 4.0 ประสิทธิภาพของ AHA จะลดต่ำลงมาก
การเพิ่มระดับ Ceramide ของผิว จาก Lactic Acid แต่ละชนิด
กรด Lactic ที่จำหน่าย เป็นชนิด L(+) Lactic ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่มเซราไมด์ในชั้นผิว
การใช้ : สำหรับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว (skin peeling) หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ต้องการให้ผิวนุ่มขึ้น
วิธีการผสม : ผสมในน้ำ (water-phase) สูตรควรจะมี pH ไม่เกิน 4.0
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : เหลวใสมีความหนืด
การละลาย : สามารถละลายในน้ำ แอลกอฮอล์ และกลีเซอรีน
การเก็บรักษา : สามารถเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ปิดฝาขาดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์มีอายุอย่างต่ำ 3 ปี
Lactic Acid (AHA) 88%
กรดแลคติก สามารถใช้ได้ที่ความเข้มข้นไม่เกิน 10% และ pH ของผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.5 หากใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ ต้องอยู่ภายใต้ความควบคุมของแพทย์ผิวหนัง หลีกเลี่ยงแสงแดดทุกชนิดในช่วงที่ใช้ รวมถึงพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด (sun block / sun protection) เนื่องจากการใช้ AHA จะทำให้ผิวบางลง และผิวจะมีความไวต่อแสงสูงขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง AHA 2 ชนิด คือ Lactic Acid และ Glycolic Acid ในการทำงานผลัดเซลล์ผิว
- Glycolic Acid มีประสิทธิภาพสูงกว่า ในปริมาณที่เท่ากัน ในการผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า ทำให้สามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่า Lactic Acid
- เนื่องจาก Glycolic Acid สามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่า จึงอาจสร้างความระคายเคืองผิวได้มากกว่า Lactic Acid ในปริมาณที่เท่ากัน
- Lactic Acid ออกฤทธิ์ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ด้วย ในขณะที่ Glycolic Acid สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างเดียว
กรดแลคติก สามารถใช้เป็นสารช่วยปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ให้ลดต่ำลงได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มีความเข้มข้นที่ 88% ไม่ใช่ที่ 100% เวลาผสม ต้องคำนวณตามอัตราส่วน 100% กล่าวคือ 1.136 กรัม ของ Lactic Acid 88% = 1.00 กรัม ของ Lactic Acid 100%
ข้อกำหนด อ.ย. สำหรับ AHA :
สำหรับผู้บริโภค ใช้ได้ไม่เกิน 10% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.5
สำหรับแพทย์ ใช้ได้ไม่เกิน 30% และ pH ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 3.0
ระดับ pH ที่เหมาะสม : สูตร AHA ควรจะมี pH ไม่เกิน 4.0 (ดีที่สุดที่ pH 2.5 , ดีที่สุดและผ่านข้อกำหนดของ อ.ย. ที่ pH 3.5) เพื่อให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ โดยหาก pH สูงกว่า 4.0 ประสิทธิภาพของ AHA จะลดต่ำลงมาก
การเพิ่มระดับ Ceramide ของผิว จาก Lactic Acid แต่ละชนิด
การใช้ : สำหรับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว (skin peeling) หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ต้องการให้ผิวนุ่มขึ้น
วิธีการผสม : ผสมในน้ำ (water-phase) สูตรควรจะมี pH ไม่เกิน 4.0
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : เหลวใสมีความหนืด
การละลาย : สามารถละลายในน้ำ แอลกอฮอล์ และกลีเซอรีน
การเก็บรักษา : สามารถเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ปิดฝาขาดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์มีอายุอย่างต่ำ 3 ปี
*****************************************************************
0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น